ทำผ้าม่าน เริ่มอย่างไร ทำที่ไหนดี
ทำผ้าม่าน แบบไหนดี ผ้าม่านมีหลายแบบ มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน การเลีอกเนื้อผ้า การเลือกสีผ้า การเลือกแบบ หรือในการหาร้านผ้าม่าน ข้อกควรระวัง ข้อผิดพลาดและแนวทางการตัดสินใจ
เลือกแบบม่าน
ก่อนตัดสินใจทำผ้าม่าน หลายคนอาจมีคำถาม มีข้อสงสัย ยังเริ่มต้นไม่ถูก ไม่ว่าจะการเลือกแบบม่าน ซึ่งก็มีหลายแบบ เช่น ม่านจีบ ม่านพับ ม่านตาไก่ หรือแบบอื่นๆ และก็มีลายละเอียดข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน
เลือกผ้า
การเลีอกผ้าและเลือกสีผ้า ที่จะให้เข้ากับบ้านหรือบรรยากาศ ก็เป็นเรื่องที่ต้องคิดพอสมควร บ้านจะสวยก็ต้องประกอบด้วยหลายสิ่งหลายอย่างของสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ ตู้ เตียง พื้น ผนัง เพดานหรืออื่นๆ การเลือกสีก็ต้องให้เข้ากันและไปกันได้ ถ้าเลือกสีผิดก็อาจเสียดาย เสียใจว่าไม่น่าเลือกสีนี้เลย หรือถ้าเลือกอีกสี ก็จะสวยกว่านี้อะไรประมาณนี้
ร้านผ้าม่าน
การหาร้านผ้าม่านก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องพิจารณา แต่ละร้านก็จะมีความแตกต่าง มาตรฐานไม่เหมือนกัน เชือถือได้มากน้อยแค่ไหน ร้านโน้นกับร้านนี้ฝีมือเป็นอย่างไร ซึ่งก็ต้องมีคำถาม มีข้อสงสัย บางครั้งอาจต้องพิจณาพร้อมๆกันหลายๆเรื่อง อย่างน้อยการทำสิ่งใด ก็ต้องระวัง ต้องหาความรู้ หรือหาคำตอบในข้อสงสัยมาเป็นพื้นฐานหรือสนับสนุนการตัดสินใจ เป็นแนวทางหรือลดข้อผิดพลาด
ข้อแนะนำหรับการเลือกม่าน
มีข้อแนะนำเบื้อต้นสำหรับการเลือกผ้าม่านเพื่อใช้งานและตกแต่งบ้านสำหรับผู้เริ่มต้น เป็นข้อแนะนำคร่่าวๆ เอามาประกอบการตัดสินใจ อาจเป็นประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อย
1.เลือกแบบม่านที่ชอบ ความสำคัญอันดับต้นๆ ผ้าม่านมีหลายรูปแบบ มีความสวยงาม เข้ากับบ้าน เข้ากับพื้นที่ เข้ากับบรรยากาศ ให้อารมณ์ ให้คุณค่าแตกต่างกัน ก็ต้องมาหาข้มูลของม่านแต่ละแบบ ว่าแบบไหนจะมีความเหมาะสมมากกว่า ทั้งนี้ก็ยังมีตัวแปรอื่นประกอบด้วย
สถานที่ก็มีส่วนสำคัญ ถ้าห้องเล็ก แต่ทำผ้าม่านเต็มพื้นที่ ทั้งความกว้าง ความสูง ก็คงไม่เหมาะ หน้าต่างเล็กแคบก็จะเหมาะกับม่านบางแบบ เช่นม่านพับ การทำม่านก็ต้องให้ลงตัวกับขนาดของห้อง ไม่มากไป ไม่น้อยไป ก็เป็นเรืองที่ต้องทำความเข้าใจ
อีกเรื่องที่ต้องพิจรณา คืองบประมาณ ม่านบางแบบสวยกว่า แต่ราคาสูงเกินความจำเป็น ไม่เหมาะกับบ้าน อันนี้เป็นอีกเรื่อง ความชอบบางครั้งก็อยูเหนือเหตุผลก็ต้องระวังเล็กน้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยูกับความชอบ ความพอใจ ก็เป็นเหตุผลได้อีกเช่นกัน
มาดูว่าม่านมีแบบไหนบ้าง
แบบของม่านที่นิยมทำ หลักๆที่รวบรวมมาเป็นตัวอย่างมี 7 แบบ แต่ละแบบก็จะมีความสวยงาม มีจุดเด่นแต่งกต่างกัน มีการใช้งานแตกต่างกันบ้าง ลองดูข้อดีข้อเสียของม่านแต่ละแบบตามนี้
-
- แบบจีบ หรือเรียกว่า “ม่านจีบ” มีรูปแบบที่เรียบง่าย ใช้งานง่าย การดูแลรักษาง่าย สามารถตกแต่งเพิ่มเติมได้หลายรูปแบบ เช่นทำแบบ 1 ชั้น 2 ชัน 3 ชั้น มีแบบ มีรายละเอียดให้เลือก เป็นผ้าม่านรูปแบบมาตรฐานที่นิยมากที่สุด มีอุปกรณ์เสริมหรือตกแต่งมาก มีรางให้เลือกใช้ ทั้งรางทรงเหลี่ยม รางทรงกลม รางโชว์ รางประดับ รางโค้ง และอื่นๆ เป็นม่านรูปแบบคลาสสิคยอดนิยม (ดูผ้าม่านจีบ)
- ม่านตาไก่ สวยงาม ทันสมัย เข้ากับการตกแต่งได้ง่าย จุดเด่นของม่านตาไก่คือการเจาะผ้าให้เป็นรูขนาดพอเหมาะกับรางม่าน ใส่ห่วงตาไก่มีสีสวยๆ เข้ากันหรือตัดกับสีม่าน มองเรียบง่าย แต่ให้ความโดดเด่น เข้ากับการตกแต่ง เป็นที่นิยมในปุัจจุบัน (ดูผ้าม่านตาไก่)
- ม่านพับ สวย ทันสมัย ให้ความแตกต่าง เปิด-ปิด ขึ้นลงแนวดิ่ง บางคนเรียกม่านญี่ปุ่น บางคนเรียกม่านโรมัน Roman blind เป็นม่านทีใช้ผ้าน้อย พับเป็นชั้น รูดเก็บด้านบน มีรางเฉพาะ เปิด-ปิด ด้วยการดึงโซ่ไข่ปลา ม่านจะพับซ้อนกัน พับทบเก็บด้านบน และคลายพับตามการดึงโซ่ลงมาปิดตามการดึงโซ่ไข่ปลา เหมาะกับการตกแต่งแนวโมเดิรน์ แต่อาจจะขาดในเรืองของความนุ่มนวล อ่อนช้อยบ้าง (ดูผ้าม่านพับ)
- ม่านลอน รูปแบบใหม่ที่กำลังจะได้รับควมนิยม ด้วยรูปแบบที่เรียบมากกว่า ไม่มีจีบ ไม่ต้องเจาะผ้า เน้นความเรียบง่าย ใช้กับรางม่านลอนเฉพาะ เป็นรูปแบบที่กำลังนิยมเพิ่มขึ้นตลอด (ดูม่านลอน)
- ม่านหลุยส์ หรูหรา สวยงาม โดดเด่น สร้างบรรยากาส ยกระกับการทำม่าน เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการความหรูหรา ไม่ว่าจะเป็นบ้านเน้นความแตกต่าง ห้องรับแขก สถานที่รับรอง โรงแรม ร้านอาหาร หรืออื่นที่ต้องการความสวย โดดเด่น เพราะม่าน (ดูผ้าม่านหลุยส์)
- ม่านระย้า หรือน้ำตก รูปแบบม่านที่ให้ความนุ่มนวล อ่อนช้อย สวยอีกแบบ เหมาะกับสถานที่ที่ต้องการสร้างบรรยากาศ ให้ความสวยงาม หรือเป็นฉากหลังไม่ว่าจะเป็นเวที สถานที่รับรอง โรงแรม ร้านอาหาร ช่วยสร้างบรรยากาศเน้นความสวยงาม (ดูผ้าม่านระย้า)
- กระเช้า เก๋ไก๋ เรียบง่าย บรรยากาศสบายๆ ในรูปแบบบ้านๆ หรือที่นิยมมากก็จะเป็นร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านอาหารญี่ปุ่น เน้นเรื่องความง่าย ความสะดวกในการใช้งาน รวมทั้งเรือ่งการดูและทำความสะอาด การติดตั้งที่ง่ายกว่า (ดูผ้าม่านกระเช้า)
ผ้าม่านแต่ละแบบอาจต้องพิจารณาความเหมาะอื่นสมประกอบด้วย เช่นเรื่องการใช้งาน ความลงตัวของพื้นที่ ถ้าพื้นที่สูงมากมาก ไม่ควรใช้ม่านตาไก่ เพราะจะทำให้รูดไม่สะดวก หรือห้องนอนถ้าต้องการปิดแสงสนิทไม่แนะนำม่านพับ เพราะช่องหรือช่วงต่อของม่านจะมีแสงลอดผ่านเข้ามาได้ เป็นต้น
2.วัดขนาดของหน้าต่าง (วัดเพื่อนำขนาดให้ร้านประเมินราคาเบื้องต้น หรือไม่จำเป็นต้องวัดเอง ถ้าให้ร้านผ้าม่านมาวัดให้) การวัดหน้าต่าง ประตู หรือช่องแสงที่ต้องการ ต้องคำนึงถึงเรื่องการใช้งานที่สะดวก และง่าย หรือมีผลต่อการใช้งานด้านอื่นๆ เช่น กรีดขวางการเปิด-ปิด มุ้งลวดหรือไม่ ขวางทางของบานประตูสไลด์ บานสวิง บานตู้ มีผลต่ะทางลมหรือการไหลของแอร์หรือไม่ หรือบดบังความสวยงามไหม บางครั้งเรื่องเล็กๆน้อยๆ อาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานของอุปกรณ์อื่นได้และความสวยงามได้ และอีกอย่าง การเผื่อในเรื่องความเหมาะสม สวยงาม ความกว้างต้องเผื่ออย่างน้อยข้างละ 10-15 ซม. ความสูงต้องเผื่ออย่างน้อย 20-30 ซม. หรือถ้าเป็นประตูควรวัดให้ลอยอย่างพื้นประมาณ 1 ซม.เป็นต้น
3. หาร้านผ้าม่านที่น่าเชื่อถือ มีสถานที่ตั้งชัดเจน มีระยะเวลาประกอบกิจการพอสมควร ให้คำแนะนำในข้อสงสัยต่างๆได้ มีสินค้าให้เลือก สามารถเปรียบเทียบได้ มีโชว์ตัวอย่างงานตัดเย็บให้เห็น มีรูปแบบของม่านแต่ละแบบให้ดูและทดลองใช้งาน ให้เห็นถึงความแตกต่าง มีทีมงานช่างเย็บและช่างติดตั้งเป็นของตัวเอง ซึ่งทั้งหลายจะทำให้ได้งานที่มีคุณภาพ จะลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้
ภาพหน้าร้านซีเอเคอร์เท่น หน้าร้าน_ลูกค้าหน้าร้าน ช่างเย็บผ้าม่าน ช่างติดตั้งผ้าม่าน
หน้าร้าน มีสินค้าให้เลือกเยอะ มีทีงามเย็บเอง มีช่างติดตั้งเอง
4. ขั้นตอนเลือกผ้า ผ้าม่านแต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน ตามการใช้งาน เช่นผ้าหนา ผ้าบาง ผ้าทึบ ผ้ากันแสง ผ้าโปร่งแสง ซึ่งผ้าแต่ละตัวคุณสมบัติเด่นไม่เหมือกัน ผ้าหนาเหมาะกับม่านพับ ผ้าบาง ผ้าเนื้อทอละเอียด มีความหนาแน่นของเส้นด้ายมาก จะให้ความพลิ้วไหวดี การทิ้งตัวได้รูปทรง ก็จะเหมาะกับม่านจีบ ม่านลอน แต่จะไม่เหมาะกับม่านพับ หรือถ้าห้องที่ต้องการแสง เช่นห้องรับแขก อาจไม่จำเป็นต้องเป็นผ้ากันแสงหรือผ้าแบล็คเอาท์ แต่ถ้าเป็ห้องนอน ก็ควรเลือกแบบกันแสง เพื่อกันแสงรบกวนเมื่อยามหลับ หรือห้องรับแขกควรเพิ่มผ้าโปร่งอีกชั้นเผื่อช่วยกรองแสง และปิดบังสายตาจากคนภายนอก
ผ้าม่านพื้นสีหน้ากว้าง ตัวอย่างผ้าหน้ากว้าง ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ ผ้ากันแสง 100%
ตัวอยางผ้ากันแสง ผ้าก้นแสงหน้ากว้าง-หน้าแคบ ผ้าโปร่งและผ้าโปร่งแสง ผ้ากันแสง100%
5.ติดตั้งเองหรือร้านผ้าม่านติดให้ แนะนำให้ร้านผ้าม่านติดให้ เพราะมีความชำนาญมากกว่า มีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมีอครบ คุณภาพงานได้มากกว่า ราคาอาจเพิ่มกว่าการทำเองบ้าง หรือส่วนใหญ่ ค่าแรงติดตั้ง หลายๆร้านจะฟรี ยกเว้นบางที่ไม่มีพนักงานประจำ อาจต้องมีค่าติดตั้งเพิ่ม หรือถ้าจำนวนงานที่ไม่มาก หรือระยะทางไกลเช่น ต่างจังหวัด ที่ต้องมีค่าติดตั้ง ค่าใช้จ่ายเพิ่ม
5.เรื่องราคา ราคาแต่ละร้านอาจแตกต่างกัน ตามการนำเนินการและจัดการบริหารต้นทุน ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบและตัดสินใจเองได้ เพราะราคาจะถูกกำหนดโดยการแข่งขัน ร้านไหนราคาสูงโอกาสได้งานก็น้อยลง ร้านไหนที่ราคาสมเหตุสมผลก็จะมีโอกาสได้งามมากกว่า แต่ถ้าร้านไหนที่มีการบริหารต้นทุนที่ต่ำ มีการจัดการที่ดี จะยิ่งได้เปรียบเรื่องราคา เพราะเป็นการแข่งขันทั้งเรื่องคุณภาพงาน การบริการ และราคา
ก็เป็นการให้ความรู้บางส่วนสำหรับผู้ที่อยากตัดผ้าม่าน อาจลองหาข้อมูลเพิ่มเติมซึ่งก็จะเป็นการช่วยให้ท่านสามารถตัดสินใจและลดข้อผิดพลาดในการทำม่านให้กับบ้านสวยๆ ที่คุณรักได้
Tel : 02-432-6693 , 02-432-6697
Mobile : 080-045-3939
Line : @ca99 หรือ c889