คำแนะนำวิธีเลือกผ้าม่าน
หากเลือกผ้าม่านได้สวย ลงตัวกับสไตล์ของบ้านและตัวเอง ถ้าภาพรวมออกมาสวย ก็เป็นอีกความสุขของเจ้าของบ้าน
4 ขั้นตอนการเลือกผ้าม่าน เคร็ดลับดีมาบอก
สำหรับผู้ที่อยากทำผ้าม่าน หากเลือกผ้าม่านได้สวย ลงตัวกับสไตล์ของบ้านและตัวเอง ถ้าภาพรวมออกมาสวย ก็เป็นอีกความสุขของเจ้าของบ้าน เป็นความภูมิใจเล็กๆที่สร้างความสุขอีกรูปแบบได้เช่นกัน แต่กลับกัน ถ้าภาพรวมออกมาไม่เป็นไปตามที่ต้องการ อาจเป็นผลในทางตรงกันข้าม อาจสร้างความขุ่นข้องหมองใจได้อีกเช่นกัน
การเลือกผ้าม่าน
เลือกแบบ เลือกสี เลือกลายผ้า
การเลือกผ้าม่าน
บรรยากาศการเลือกผ้าม่าน
ร้านซีเอ.เดคคอร์มีผ้าม่านให้เลือกอยางหลากหลาย
การทำให้ผ้าม่านสวยและลงตัว
คงมีหลายสิ่งประกอบกันที่จะทำให้ผ้าม่านสวยและลงตัว ไม่ใช่จากอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วผ้าม่านต้องสวย ต้องดูดี บางคนคิดเยอะ เลือกเยอะ แต่งานออกมาไม่ได้เป็นไปตามที่ต้องการก็มี สำหรับการเลือกผ้าม่านจากประสบการณ์ ก็ขอให้ข้อแนะนำ เพื่อเป็นความเข้าใจ และเป็นจุดเริ่มต้นในการตัดสินใจ จะขอกล่าวสิ่งที่เกียวข้องดังต่อไป
- การเลือกผ้า
- การเลือกสีและลาย
- การเลือกแบบ
- การเลือกให้เข้ากับบรรยากาศ หรือสไตล์การตกแต่ง
ลูกค้ากำลังเลือกผ้าม่าน
เลือกให้เข้ากับการตกแต่งและบรรยกาศของบ้าน
1.การเลือกผ้า
หลายคนมักมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเนื้อผ้าและมักมีคำถามอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นชื่อผ้า คุณภาพผ้า และคุณสมบัติของผ้า ผ้าม่านทีวางจำหน่ายในท้องตลาดหรือร้านผ้าม่านทั่วไป โดยส่วนใหญ่จะเป็นผ้าที่ผ่านกระบวนการต่างๆ ที่มีจุดประสงค์หลักคือการทำผ้าม่านที่มีคุณภาพ คุณสมบัติต่างๆ เช่น ความทนทานต่อการใช้งาน ทนแดด ทนความร้อน ให้ความทนทาน สีไม่ซีด ไม่จางง่าย ไม่ยับ ไม่ยืด ไม่หด ทนการขูดขีดได้ดี ทิ้งตัวดี มีน้ำหนัก ด้านคุณสมบัตเช่น กันน้ำ กันไฟ กันร้อน กันแสง นั่นหมายความว่า ก่อนที่จะมาเป็นผ้าม่าน ก็ต้องผ่านกระบวนการต่างๆ มีการคัดเลือกคัดสรรค์ตามความต้อง นั่นคือคุณภาพเบื่องต้นก่อนจะถึงมือผูบริโภคหรือลูกค้า
ผ้าม่าน มีให้เลือกหลากหลาย มีคุณสมบัติตามความต้องการแตกต่างกัน
2.การเลือกสีและลายผ้า
การอออกแบบสีและลายผ้าก็เช่นเดียวกัน การผลิด ซึ่งก็มีการแข่งขันกัน การออกแบบให้สีให้สวยเข้ากับยุคสมัย ทันกับเทรนความนิยม รวมทั้งการออกแบบลายผ้าก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับดีไซน์เนอร์ ที่ต้องกลั่นกรอง ออกแบบอย่างสุดความสามารถ เมื่อผ้าสีสวย ลวดลายโดนใจ ผู้ผลิดมีโอกาสขายได้มากกว่าแน่นอน นั้นหมายความว่า ผ้าที่วางขายในแง่ของสีและลายก็ผ่านการคัดกรองมาให้ระดับหนึ่งแล้ว สำหรับเคล็คลับการเลือกสี
- เอิร์ทโทน ยอดนิยมสำหรับยุคนี้ เป็นสีผสมระหว่างสองสี การมองเห็นจะไม่เป็นสีใดสีหนึ่งชัดเจน เอิร์ทโทน แนวอบอุ่น เช่น สีครีม น้ำตาล เทา เขียวหม่น จะเข้ากับสิงแวดล้อมได้ดี ไม่ขัดแย้ง แต่ทั้งนี้ควรให้ไปแนวเดียวกันกับภาพรวมของห้อง หรือดูสีใดสีหนึ่งของห้องที่มองแล้วเด่นกว่าเพื่น ให้ใช้ผ้าม่านสีนั้น หรือใกล้เคียง
- ถ้าบ้านหลังเล็ก ห้องแคบ ควรเลือกผ้าสีอ่อน ให้มองสบายตา
- ไม่ควรเลือกลายผ้าสีเข้มและลายใหญ่ หรือลายที่โดดเกินไป โดยเฉพาะผ้าพิมพ์ลายที่มีสีสันโดดเด่น จะทำให้ดูลายตา ห้องแคบ มองไม่สบายตา ตัวอย่างสีและลายผ้า
สี มีความสำคัญมากกว่าลายผ้า
ผ้าม่านความสวยงาม อยู่ที่รูปแบบ
ฉนั้นเรื่องการเลือกสีและลายผ้า ผู้เลือกใช้ก็จะง่ายขึ้น เนื่องจากมีคนเลือกไว้ให้แล้วสำหรับเทรนและในแง่ของความทันสมัย การเลือกสีและลายผ้า ผู้เขียนอยากให้เน้นเรื่องของสีมากกว่าลาย เพราะภาพรวมของผ้าม่าน เมื่อมองแล้วสีจะมีส่วนสำคัญกว่า การเลือกก็ควรเลือกสีให้เข้ากับบรรยกาศรองลงมา ให้เลือกเข้าโฉลกของตัวเองชอบ (ถ้าคุณเป็นคนตัดสินใจ) เท่านั้น เพราะเรื่องของสีเป็นอะไรที่ไม่มีข้อจำกัด เป็นอะไรที่มีเหตุและผลค่อนข้างกว้าง เนื่องจากสีมีหลายสาเหตุหลายสิ่งหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง เช่น เพศ วัย อารมณ์ บรรยากาศและสภานที่ เป็นเรื่องยากที่จะเลือกสีแล้วทำให้ลงตัวกับสิ่งที่เกี่ยวข้องดังกล่าวลงตัวได้อย่างง่ายๆ และแต่ละสีอาจลงตัวกับเจ้าของไม่เหมือนกัน การเลือกสีจึงขอแนะนำให้เลือกตามความชอบตามบุคลิกของตัวอเอง อย่าไปซีเรียส อย่าตามคนอื่นมาก เอาแค่ตัวเองชอบที่สุดเป็นพอ
3.การเลือกแบบม่าน
ผ้าม่านที่นิยมตกแต่งบ้าน มีหลายแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นม่านจีบ ม่านตาไก่ ม่านพับ ม่านหลุยส์ ม่านกระเช้า ซึ่งก็นิยมทำกัน ถ้ายอดนิยมตอนนี้ คงหนีไม่พ้นผ้าม่านแบบตาไก่ จากประสบการณที่ผ่านมา ความนิยมการทำผ้าม่านก็เป็นแฟชั่นด้วยเช่นกัน ที่ผ่านมาช่วงที่การตกแต่งเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา ความนิยมตกแต่งสไตล์โรมันเป็นที่นิยมอย่างมาก สังเกตุจากบ้านที่สร้างยุคนั้น จะมีรูปทรงที่เน้นความสวยงามลวดลายโรมัน ภายนอกมีการแต่งลวดลายสวยหรู อลังการ ผ้าม่านที่นิยมจึงเป็นผ้าม่านหลุยส์ ที่ให้ความสวยงามหรูหรา เป็นที่สุดของรูปแบบผ้าม่าน หรือถ้าไม่เป็นม่านหลุยส์ ก็อาจเป็นม่านที่ตกแต่งให้ความสวยงามใกล้เคียง เช่นผ้าม่านแบบจับจีบ ที่ทำกระโปรงหน้า ตัดโค้งหลายกลายรูปแบบ เสริมด้วยชายครุยที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ม่านดูหรูขึ้น เป็นการตกแต่งที่นิยมอย่างมากในยุคนั้น แบบผ้าม่าน
4.เลือกให้เข้ากับบรรยากาศหรือห้องนั้นๆ
นอกจากแบบม่านที่เป็นสิ่งสำคัญ สิ่งที่ต้องคำนึงอีกอย่างคือ เรื่องความต้องการด้านอื่นๆว่าต้องไหนต้องการอะไร แต่ก็ต้องนึกถึงภาพรวม ที่ไม่ขัดแย้ง หรืออย่างน้อยต้องสอดคล้องและไปกันได้ กับแต่ละห้อง โดยเฉพาะพื้นที่ต่อเนื่องกัน เช่นห้องรับแขกและโถงบันหรือห้องอาหาร ก็ไม่ควรให้ขัดแย้งกัน ให้มองภาพรวมไม่ขัดแย้งกัน
-
- ห้องนอนถ้าต้องการทึบ ปิดแสงได้มากกว่า ก็ต้องเลือกม่านประเภทสีเข้มหรือผ้ากันแสง ซึ่งเป็นที่นิยม มีให้เลือกมากมายหลายแบบ ผ้าม่านห้องนอน
- รับรับแขกหรือห้องนั่งเล่น ต้องเป็นสีที่สบายตา ให้ความโปร่ง โล่งมากกว่า เพราะต้องใช้ร่วมกันหลายคนที่เป็นสมาชิกในบ้าน ควรต้องมีบรรยากาศสบายๆ ไม่ทึบ ไม่อึดอัด ผ้าม่านจีบห้องรับแขก
- ห้องครัว ควรดูตามความเหมาะสม ครัวหนักไม่ควรเป็นมู่ลี่ไม่ว่าจะเป็นไม้หรืออลูมิเนียม เพราะเมื่อมีคราบน้ำ คราบไขมัน โดยเฉพาะไขมันจากการทำอาหาร จะความสะอาดยาก
- หรือห้องอื่นๆ ว่าต้องการอะไร อันนี้ต้องมีลายละเอียดและความเข้าบ้าง เช่นห้องนอน
“ผ้าม่านตาไก่” แบบม่านยอดนิยม
และต่อมา ก็มีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย ตามกาลเวลา จากคลาสสิกในรูปแบบของโรมัน มาเป็นโมเดิร์น ในรูปแบบของความทันสมัย สำหรับคนรุ่นใหม่ยุคแรกๆ คือผ้าม่านพับ ผ้าม่านที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยรูปแบบม่านพับ เข้าการตกแต่งบ้านหรืออาคาร ที่พักชอาศัยที่เน้นความทันสมัย รวมทั้งการใช้งานที่แตกต่าง ง่ายและสะดวก ทำให้ม่านพับเป็นที่นิยมต่อมาอีกนับ 10 ปี จนมาเมื่อประมาณ 6-7 ปีที่ผ่านมา ม่านผ้าม่านตาไก่ก็มาแทนที่ ทุกวันนี้ สัดส่วนการทำผ้าม่านที่ร้าน ซีเอ.ทำให้กับลูกค้าประมาณ 70-80% เป็นผ้าม่านตาไก่ ดังนั้นของนิยมของม่านตาไก่ จึงเป็นที่นิยม ณ ปัจจุบันมากกว่าม่านแบบอื่นๆในสัดส่วนที่ค่อนข้างแตกต่าง ผ้าม่านตาไก่